เมื่อต้องอยู่บ้านในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวยังไงก็คงไม่สบายตัว และการเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งวันหรือเปิดพัดลมทุกตัวในบ้าน ก็อาจไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา บ้านร้อน ที่ดีที่สุด เพราะยังมีอีกหลายวิธีที่จะทำให้ บ้านเย็นขึ้นได้โดยไม่ต้องเปลืองไฟ
แต่ละมีวิธีไหนบ้างที่ช่วยให้อุณหภูมิใน บ้านร้อน ๆ ลงได้ ช่วยทำให้เกิดสภาวะเย็นสบายในระยะยาว ถ้าอยากพักผ่อนให้สบาย ผ่อนคลายให้เต็มที่เมื่ออยู่บ้าน ลองมาปรับเปลี่ยนปัจจัยต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ บ้านร้อน หลังเดิมกลายเป็นบ้านที่เย็นขึ้นได้แบบไม่เปลืองไฟ และโดยไม่ต้องแก้ปัญหาที่ปลายเหตุกันค่ะ ตาม my home มาดูกันเลย 1.เพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้
การพึ่งพาธรรมชาติเพื่อช่วยคลายร้อนให้กับบ้านอย่างการปลูกต้นไม้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์และความเย็นที่ได้ผลและใช้กันมายาวนาน แค่ต้องเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ สำหรับภายนอกตัวบ้านก็อาจเลือกปลูกต้นไม้ที่ค่อนข้างใหญ่ เพื่อช่วยปกป้องผนังบ้านจากแสดงแดดที่ส่องมาโดยตรงทำให้ตัวบ้านไม่เก็บความร้อยมากเกินไป แต่ถ้าต้องการเพิ่มความสดชื่นภายในบ้าน ก็มีหลายตัวเลือกให้นำไปตั้งในห้องนั่งเล่นได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพลูด่าง ยางอินเดีย เดหลี เฟิน ฯลฯ พันธุ์ไม้เหล่านี้จะช่วยปล่อยออกซิเจนออกมาทำให้อากาศบริสุทธิ์และเย็นสบาย แถมยังเพิ่มบรรยากาศผ่อนคลายด้วย
2.ม่านกรองแสงช่วยได้
เลือกผ้าม่านให้ถูกประเภทก็ช่วยลดความร้อนที่มาจากแสงแดดได้เหมือนกันค่ะ โดยส่วนใหญ่นั้นแต่ละบ้านมักจะติดเฉพาะม่านกันแสงที่เป็นผ้าม่านผืนหนามีสีเข้ม ซึ่งม่านลักษณะนี้จะยิ่งเก็บความร้อนเมื่อโดนแสงแดดในเวลากลางวัน แต่ถ้าหากเพิ่มการติดม่านโปร่งแสงที่เป็นเนื้อผ้าสีขาวบางเบาไว้ด้านอกสำหรับใช้ในช่วงกลางวันแทน ก็จะช่วยกรองแสงแดดและไม่ดูดความร้อนเก็บไว้ด้วย ส่วนม่านกรองแสงหรือม่านม้วนซันสกรีนนั้นก็เป็นอีกตัวเลือกที่ประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับใครที่ไม่ต้องการติดม่านถึง 2 ชั้น เพราะม่านประเภทนี้จะช่วยกรองแสงได้ 80-90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวค่ะ เมื่อภายในบ้านได้รับแสงแดดน้อยลงอุณหภูมิก็จะลดลงตามไปด้วยนั่นเอง
3.ใช้หลอดไฟแบบ LED
เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็เริ่มหันมาใช้หลอดไฟ LED กันมากขึ้นแล้ว โดยอีกเรื่องที่โดดเด่นเลยก็คือการปล่อยความร้อนออกมาในปริมาณที่น้อยกว่าหลอดไฟแบบอื่น ๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้บ้านมีอุณหภูมิสูงขึ้นและทำให้เครื่องปรับอากาศก็ยังต้องทำงานหนัก หลอดไฟ LED นั้นจะใช้พลังงานน้อยกว่า จึงปล่อยความร้อยนออกมาในปริมาณที่น้อย แถมแสงที่ได้ยังสบายตาและแน่นอนว่ายังช่วยประหยัดไฟมากกว่าด้วยค่ะ
4.งดปูพรม
พรมปูพื้นผืนใหญ่ ๆ หนา ๆ ที่เพิ่มบรรยากาศหรูหราให้กับบ้านนั้นเป็นพื้นที่เก็บความร้อนชั้นดีเลยค่ะ เพราะฉะนั้นในช่วงหน้าร้อนแบบนี้หากไม่จำเป็นจริง ๆ ก็แนะนำให้พับเก็บไปก่อนดีกว่า ถ้าหากต้องการปูพรมจริง ๆ อาจลองใช้เป็นพรมคอตตอนหรือพรมผืนบาง ๆ ที่ไม่เก็บความร้อน หากลองเลือกให้เข้ากับสไตล์การแต่งบ้าน ก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศสบาย ๆ เข้ากับบ้านในช่วงหน้าร้อนได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
5. ให้น้ำเป็นตัวช่วย
ร้อน ๆ แบบนี้ให้น้ำเป็นตัวช่วยเลยค่ะ ตั้งแต่การติดสปริงเกอร์บนหลังคาสำหรับบ้านที่ไม่มีฉนวนกันความร้อน ถ้าหากเปิดในช่วงกลางวันน้ำจะช่วยให้หลังคาที่ได้รับแสงแดดโดยตรงระบายความร้อนออกไปได้ ไม่ต้องเก็บสะสมและกระจายเข้าสู่ตัวบ้าน และน้ำที่ไหลลงมาจะช่วยระบายความร้อนบนพื้นรอบตัวบ้านได้อีกต่อด้วย อีกวิธีที่ไม่ต้องถึงขั้นติดสปริงเกอร์ก็คือการใช้น้ำฉีดตามบริเวณรอบ ๆ บ้าน ร่วมกับการคลายร้อนให้บ้านด้วยวิธีอื่น รับรองว่ายังไงอุณหภูมิในบ้านก็ลดลงแน่นอนค่ะ 6.ติดพัดลมระบายอากาศ
พัดลมระบายอากาศเป็นอีกตัวช่วยที่ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น ไม่ใช่สำหรับแค่ภายในห้องน้ำเท่านั้น แต่มุมต่าง ๆ ในบ้านที่มีอากาศอบอ้าวก็สามารถติดพัดลมระบายอากาศได้เหมือนกัน หากในมุมนั้น ๆ ไม่มีทิศทางลมให้ลมผ่านเข้าออก อาจจะเป็นห้องที่มีหน้าต่างไม่มากหรือเป็นมุมอับ การติดพัดลมระบายอากาศเข้าไปจะช่วยไล่อากาศที่อบอ้าวอยู่ด้านในและหมุนเวียนอากาศจากภายนอกเข้ามา แค่เปิดใช้งานในบางช่วงก็ทำให้ความร้อนที่สะสมอยู่บ้านถูกนำออกไปได้
7.เลือกใช้พัดลมช่วยไล่ความร้อน
พัดลมแต่ละรูปแบบนั้นมีลักษณะการทำงานและการถ่ายเทอากาศที่ต่างกันออกไป พัดลมตั้งพื้นหรือติดผนังส่วนใหญ่จะเป็นการดูดอากาศในบริเวณนั้นเข้ามาและกระจายออกไปอีกที คราวนี้ถ้าภายในห้องนั้นมีอากาศร้อน ลมที่พัดออกมาก็จะร้อนตามไปด้วยอยู่ดี ซึ่งปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นกับพัดลมไอเย็นค่ะ นั่นเพราะว่าอากาศที่ได้ปล่อยออกมาถูกลดอุณหภูมิด้วยการใช้น้ำมาเป็นตัวช่วย ลมที่พัดออกมาจะเย็นสบายและไม่เหนียวเหนอะหนะหรือมีความชื้น ที่สำคัญยังใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องปรับอากาศหลายเท่าตัวเลยค่ะ หรือถ้าต้องการให้ได้ระยะที่กว้างขึ้นการติดพัดลมเพดานก็เป็นอีกตัวเลือกที่ใช้ได้ผล เพราะจะช่วยไล่อากาศภายในบ้านได้หากเปิดหน้าตาประตูออก ความร้อนที่สะสมอยู่ในบ้านก็จะออกไปอย่างรวดเร็ว
8.เปิดหน้าต่างรับลม
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นได้อย่างธรรมชาติก็คือการเปิดหน้าต่างรับลมในช่วงอากาศดี ๆ นั่นเองค่ะ ถึงแม้ว่าในช่วงเวลากลางวันจะร้อนสักแค่ไหน ก็อย่าเอาแต่ปิดบ้านทึบและเปิดแอร์เพียงอย่างเดียวนะคะ การลองเปิดหน้าต่างในช่วงเย็นให้ลมมีทั้งทิศทางสำหรับเข้าและออกจะช่วยลดความร้อนที่สะสมอยู่ในบ้านตลอดทั้งวันให้ออกไปได้ แม้จะเป็นช่วงสั้น ๆ แต่ก็ทำให้ได้ผ่อนคลายจากลมธรรมชาติ และยังเป็นการลดค่าไฟทำให้เครื่องปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนักเกินไปด้วย
9.ลดการทำอาหารภายในบ้าน
ปัจจัยอีกอย่างที่เพิ่มอุณหภูมิในบ้านให้สูงขึ้นได้ก็คือความร้อนจากการทำอาหารนั่นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เตาแก๊ส หม้อหุงข้าว ไมโครเวฟ รวมถึงเตาไฟฟ้าต่าง ๆ ยิ่งถ้าใช้งานบ่อย ๆ ในทุกมื้อทั้งเช้า กลางวัน เย็น ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความร้อนให้บ้านตลอดทั้งวัน ซึ่งการทำอาหารมื้อใหญ่ไว้รับประทานทีเดียว หรือเปลี่ยนจากการทำอาหารในบ้านไปนั่งปิ้งย่าง ทำอาหารมื้อเย็นง่าย ๆ ในสวนด้านนอกก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความร้อนสะสมลงไปได้ค่ะ
ขอบคุณที่มา : บ้านและสวน