อสังหาฯ พาเพลิน
ซื้อบ้านและที่ดินราคาถูก แต่ขายได้แพง
เนื้อหาชุดนี้ต้องขอออกตัวก่อนว่า หากใครต้องการหาเทคนิค กลยุทธ์อสังหาริมทรัพย์ขั้นเทพอาจต้องผิดหวัง เพราะ 5 วิธีที่จะพูดถึงนี้ ไม่ได้มีกลยุทธ์ใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงที่ดินที่คนส่วนมากมองว่าไม่ดี แต่หากเราใช้สติปัญญา ไตร่ตรองหาคำตอบถึงปัญหา ทราบที่มาที่ไปว่าเหตุใดไม่ดี ไม่ดีจริงไหม หากไม่ดีจริงแล้วต้องแก้ด้วยวิธีใด เพื่อให้ได้ที่ดินสำหรับสร้างบ้าน ที่มีราคาที่ถูก และคุ้มค่ากว่าที่ดินแปลงอื่น ๆ แต่สิ่งแรกที่ต้องเตรียมพร้อมคือการเปิดใจ เปิดใจยอมรับพร้อมที่จะแยกแยะระหว่าง ความเชื่อ กับความจริงอย่างเป็นเหตุเป็นผล หากคุณผู้อ่านพร้อมแล้ว มาตามหาบ้านและที่ดินราคาถูกใกล้ตัวเรากันครับ
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
1. ทาง 3 แพร่ง
ออกตัวแรงตั้งแต่หัวข้อแรก ทางสามแพร่งจัดเป็นที่ดินที่ได้รับความนิยมน้อยในการสร้างบ้าน เป็นเพราะว่าเส้นทางการจารจรที่มีโอกาสสุ่มเสี่ยงให้เกิดอันตรายสูง ซึ่งก็เป็นข้อมูลจริงที่ว่า ทาง 3 แพร่งนั้นไม่เหมาะสมกับการสร้างบ้าน แต่ไม่ใช่ทุกกรณีนะครับ บางท่านเพียงแค่เห็น 3 แยกนิดหน่อยก็มองว่าเป็นทาง 3 แพร่งไปทั้งหมดแล้ว และหากเป็นบ้านภายในโครงการจัดสรร, โครงการที่ดินจัดสรรแบ่งขาย หรือภายในซอย ชุมชนเล็ก ๆ ที่มีการจารจรน้อย ให้ลืมเรื่องทาง 3 แพร่งไปได้เลยครับ
เพราะหากเป็นชุมชนเล็ก ๆ ย่อมมีการจารจรที่น้อย ด้วยบริบทของชุมชนเล็ก ๆ เป็นผลให้ไม่สามารถขับรถเร็วได้ บางโครงการเพิ่มความปลอดภัยด้วยลูกระนาด ยิ่งจำเป็นต้องขับช้ากว่าปกติมาก หากเจอที่ดินที่เขาเรียกกันว่าทาง 3 แพร่งในลักษณะดังกล่าว และมีราคาถูกกว่าแปลงทั่วไปมาก แนะนำให้ซื้อไว้ได้เลยครับ จากนั้นทำการปรับแก้ฮวงจุ้ยเบื้องต้นก็สามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบายใจ แถมมีข้อดีกว่าแปลงอื่น ๆ เพราะได้รับลมจากหน้าบ้าน ได้วิวที่ปลอดโปร่งกว่าด้วยครับ
หมายเหตุ : กรณีทาง 3 แพร่งในตัวเมือง แหล่งการค้า นับเป็นตำแหน่งที่ดี ช่วยให้ผู้ผ่านไปผ่านมามีโอกาสเห็นสูง มักเป็นทาง 3 แพร่งที่แย่งกันซื้อ และมีราคาแพงกว่าที่ดินทั่วไป ทาง 3 แพร่งที่เป็นอันตราย จึงเป็นทาง 3 แพร่งเฉพาะจุดเสี่ยง ที่มีการจารจรเร่งด่วน เส้นทางมืด เปลี่ยว เท่านั้น
2. ที่ดินหน้าแคบ
โดยปกติที่ดินยิ่งมีหน้ากว้างติดถนนมาก ยิ่งมีราคาสูง เพราะหน้ากว้างของที่ดินช่วยให้เกิดการมองเห็นจากผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา ช่วยทำให้ธุรกิจการค้าขายเป็นผลที่ดียิ่งขึ้น แต่หากซื้อที่ดินไว้สำหรับสร้างบ้าน หน้ากว้างไม่ได้มีประโยชน์ต่อการค้าขายเลยครับ กลับกัน ที่ดินที่มีหน้ากว้างจนเกินไป เป็นผลให้การออกแบบบ้านดูเปิดเผยมากกว่าปกติ ทำให้ขาดความเป็นส่วนตัว จำเป็นต้องทำรั้วสูงเปลืองงบกันไปอีก แต่สำหรับที่ดินหน้าแคบอาจทำให้หลายท่านนึกภาพบ้านตนเองไม่ออกว่าจะมีหน้าตาอย่างไร
แนะนำให้เข้าชมเว็บไซต์บ้านไอเดียบ่อย ๆ ครับ จะได้เห็นผลงานจากสถาปนิกทั่วโลก ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ที่ดินหน้าแคบนี่หละ ออกแบบได้สวยมาก แถมยังจัดสรรที่ดินได้อย่างง่าย ทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเกิดความเป็นส่วนตัวสูง
3. หันหน้าทางทิศตะวันตก
ทั้งด้านฮวงจุ้ยและด้านความเชื่อของคนไทยสมัยก่อน บอกกันต่อ ๆ ว่า หากบ้านหันไปทางทิศตะวันตกจะทำให้ชีวิตตกต่ำ ความเป็นจริงแล้วชีวิตตกต่ำไม่ได้เกี่ยวกับการหันหน้าบ้านเลยครับ เกี่ยวกับพฤติกรรม ทัศนคติของตัวเราล้วน ๆ แต่ต้องขอบอกความจริงไว้ก่อนว่า ทิศตะวันตกหากออกแบบไม่ดีก็ส่งผลไม่ดีกับการอยู่อาศัยเช่นกัน เพราะทิศตะวันตกเป็นทิศที่มีแสงแดดร้อนจ้า โดยเฉพาะช่วงบ่ายถึงเย็นจะร้อนมากกว่าปกติ หากออกแบบพื้นที่ใช้สอยหลักให้อยู่ทางทิศตะวันตก ย่อมส่งผลไม่ดีกับผู้อยู่อาศัย และนี่อาจเป็นกุศโลบายของคนโบราณ ก่อกำเนิดเป็นความเชื่อที่บอกต่อกันมา
การออกแบบบ้านช่วยแก้ปัญหาเรื่องทิศได้ จุดสำคัญของบ้านอยู่สบาย คือการวางผังบ้าน วางผังห้องต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับทิศ เช่น ห้องนอน เหมาะกับวางไว้ทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ เพราะสองทิศนี้ตั้งแต่บ่ายลงมาจะไม่ร้อน เมื่อเราเข้านอนช่วงดึก ห้องจะไม่อบอ้าว ส่วนทิศตะวันตกแสงแดดจ้า เหมาะกับวางตำแหน่งห้องครัว ห้องน้ำ เพราะแสงแดดมีประโยชน์ต่อการฆ่าเชื้อและป้องกันความชื้นได้ดี
4. ที่ดิน 3 เหลี่ยม (ชายธง)
นอกจากที่ดินทาง 3 แพร่งจะมีราคาถูกแล้ว ที่ดิน 3 เหลี่ยมเป็นอีกลักษณะที่ดินได้รับความนิยมน้อยในการสร้างบ้านไม่แพ้กัน ก่อนอื่นต้องขอแยกระหว่างที่ดินแปลงใหญ่ กับที่ดินแปลงเล็กก่อนนะครับ กรณีแปลงใหญ่ตั้งแต่ 1 ไร่ขึ้นไป จะรูปทรงไหนก็ไม่ต้องเป็นกังวลครับ ด้วยขนาดที่กว้างมาก รูปทรงของที่ดินจึงไม่มีผลต่อการสร้างบ้าน
ส่วนที่ดิน 3 เหลี่ยมที่เขาไม่นิยมกัน จะเป็นที่ดินแปลงเล็ก ๆ ซึ่งเหตุผลหลักก็คือ จัดสรรที่ดินได้ยาก และอาจก่อให้เกิดมุมอับ มุมเหลี่ยม ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้น้อย แต่ปัญหาเหล่านี้ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยงานออกแบบเช่นกัน ทั้งออกแบบภูมิทัศน์หรือออกแบบรูปทรงของบ้าน ให้มีสัดส่วนและฟังก์ชั่นการใช้งานที่ได้ประสิทธิภาพสูง โดยจะแบ่งการแก้ปัญหาได้ 2 วิธี
ปรับภูมิทัศน์ วิธีนี้เหมาะสำหรับที่ดิน ที่มีพื้นที่ไม่แคบจนเกินไป ให้ตัดแบ่งพื้นที่เป็นสองส่วน จะได้สี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยม โดยส่วนสี่เหลี่ยมใช้สำหรับสร้างบ้าน และที่ดินสามเหลี่ยมที่เหลือใช้สำหรับจัดสวน ปลูกผักสวนครัว หรือใช้ประโยชน์อื่น ๆ ที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างมาเกี่ยวข้อง
ออกแบบให้ลงตัว วิธีนี้เหมาะสำหรับที่ดินที่มีอย่างจำกัด เพราะหากจะตัดแบ่งใช้เป็นสวนก็อาจจะไม่เหลือพื้นที่ให้อยู่อาศัย หากผู้อ่านได้ชมงานสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นบ่อย ๆ จะเข้าใจเรื่องการออกแบบที่คำนึงถึงพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ด้วยลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ดิน ทุก ตร.ว. ในเมืองญี่ปุ่นจึงมีความสำคัญมาก บทบาทของสถาปนิกจึงมีความสำคัญสูง
5. ทำเลร้าง
ปิดท้ายกันด้วยหัวข้อที่ต้องท้าทายความรู้สึก หากใครเป็นนักล่าบ้านและที่ดินตัวยง คงเคยได้เห็นวัฏจักรการเกิดดับของอสังหาริมทรัพย์ที่เคยรุ่งเรืองมาก่อน ในเนื้อหานี้จะไม่กล่าวถึงหมู่บ้านจัดสรรโครงการใหญ่ที่ถูกปิดทิ้งร้าง หรือชุมชนขนาดใหญ่ที่ไม่มีคนอยู่อาศัยนะครับ จะหมายถึงเพียงแค่ที่ดินไม่กี่แปลง ตึกแถวหรือบ้านเดี่ยวไม่กี่หลัง อาจเป็นแค่ซอยเล็ก ๆ ที่มีสภาพเก่าโทรม ขาดการดูแล ซึ่งมักเกิดจากความผิดพลาดในการบริหารธุรกิจหรือปัจจัยทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ขายไม่ออก ยิ่งขายไม่ออกและขาดการดูแลเป็นเวลานาน ยิ่งมีสภาพทรุดโทรมรกร้างมากขึ้น และข้อดีของที่ดินเหล่านี้คือ มีราคาถูกกว่าปกติ
แต่หัวข้อนี้หากทำเพียงผู้เดียวก็ยากที่จะทำให้ทำเลเหล่านั้นกลับมาน่ามองได้ เพราะภาพรวมของทำเลที่น่าอยู่ ไม่ได้เกิดจากบ้านเพียงหลังเดียว แต่เกิดจากสภาพแวดล้อมองค์รวมต้องน่ามองทั้งหมด หัวข้อนี้จึงเหมาะกับการชักชวน รวมกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ต้องการบ้านและที่ดินราคาถูกด้วยกัน รวมตัวกันเข้าซื้อ ยิ่งซื้อแบบเหมารวมยิ่งทำให้มีราคาถูกลงไปอีกมากครับ หลังจากนั้นค่อย ๆ ทำการบูรณะทำเลใหม่ หากเป็นบ้านอาคารตึกแถว ทำการรีโนเวทตกแต่งใหม่ รับรองได้ว่าคุณจะได้ของถูกและอาจขายต่อได้ในราคาที่แพงมาก ๆ ก็เป็นไปได้ครับ ขอบคุณที่มา : บ้านไอเดีย
Comments